วิกฤตเศรษฐกิจโลกครั้งใหม่…คนไทยควรเรียนรู้อะไร ตอนที่ 1 (คำทำนายหรือความจริงที่หลีกเลี่ยงได้)

                “ทุนนิยม โตแล้วต้องแตก” วลีเด็ดของท่านอาจารย์ดร.พงษ์ศานต์ พันธุลาภ  แห่งคณะรัฐศาสตร์   มหาวิทยาลัยรามคำแหง  เมื่อครั้งที่ผมได้นั่งฟังการบรรยายของท่าน คำพูดสั้นๆง่ายๆได้ใจความ  แต่น้อยคนที่จะคิดตาม   

ท่ามกลางกระแสทุนนิยมที่เชี่ยวกราด  เมื่อถึงเวลาขึ้นก็ดีใจหาย  แต่พอถึงเวลาลงก็ไม่ต่างอะไรกับน้ำตกบริเวณหน้าผาลึก   หากไม่รู้จักป้องกันตัว  พร้อมหาลู่ทางและที่ยึดเหนี่ยวในยามที่มีโอกาส   อาจจะพลาดพลั้งเสียที

โลกใบนี้หากเปรียบเป็นเรือ  อาจเป็นเรือที่มีรูรั่วทั่วทั้งลำ  แต่รูรั่วใหญ่ๆ 2 จุด คือวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาที่กำลังรอวันทะลัก  และวิกฤตเศรษฐกิจประเทศในยุโรปโดยเฉพาะกรีซที่น้ำกำลังไหลบ่าเข้าสู่ลำเรือ 

นโยบายการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ต่างอะไรจากสุภาษิตไทยที่ว่า  ชักหน้าไม่ถึงหลัง คืออุดยังไงก็ไม่มีทางสนิท แก้ตรงนี้ที ตรงนั้นที  เพราะความแรงของกระแสน้ำที่อยู่รอบตัวเรือ  เหลือให้ลุ้นก็แค่ว่า อย่าให้น้ำทะลักพร้อมกันไม่เช่นนั้นคงเปิดตำราหาวิธีแก้กันไม่ทัน  ( ตำราต้นฉบับก็ยังเปียกน้ำจนยุ่ย  แล้วจะเอาอะไรกับพวกสำเนาที่ไปคัดลอกเค้ามา )

ประเทศไทยควรเรียนรู้อะไร...ความจริงที่ว่าระบบเศรษฐกิจโลกเป็นระบบที่เชื่อมโยงถึงกัน  เพราะฉะนั้นอย่านั่งรอวันที่กระแสน้ำแห่งวิกฤตครั้งนี้ไหลมาถึงตัวจนท่วมหัวไม่มีทางหนี  ผลกระทบคือสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่จะมากหรือน้อย อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของหัวเรือใหญ่  ฝีพายและคนคุมหางเสือ

ในเวลาเช่นนี้การสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเงินในกระเป๋าของประเทศชาติและประชาชน   คงจะดูเข้าท่ามากกว่าการทุ่มเงินสร้างคะแนนนิยมเป็นไหนๆ   

ที่พูดเช่นนี้ไม่ใช่กระต่ายตื่นตูม แค่อยากรู้ว่าประเทศไทยและคนไทยมีภูมิคุ้มกันมากพอแล้ว หรืออย่างไร??? ถึงได้ทุ่มเงินกับนโยบายสร้างและกระจายหนี้สิ้นกันทั่วหน้า

อะไรๆก็ประชานิยม  อนาคตก็เตรียมตัวประชาระทมกันได้ (นโยบายนี้เฉพาะประชาชนเท่านั้นที่เข้าถึง)   ถึงเวลานั้นไม่รู้ว่าพรรคการเมืองไหนจะตกกระไดพลอยโจนมาเป็นรัฐบาล  พาลถึงคราวซวยต้องมาคอยแก้ปัญหาที่ไม่ได้ก่อ  ไอ้พรรคที่ก่อก็รอแต่จังหวะ  หากเริ่มเห็นแสงสว่างที่ปลายถ้ำก็พร้อมเขียนบทให้ตัวเองได้เป็นอัศวินขี่ม้าขาวเข้ามากู้วิกฤต  วังวนแบบนี้รู้ๆ กันอยู่ 

รัฐบาลมีวาระในการทำงาน  แต่รัฐนาวาลำนี้ไม่สามารถหยุดนิ่งเพื่อรอคอยวันจมได้   การสร้างหนี้ผูกพันไม่ต่างอะไรจากการขนทรายลงเรือที่กำลังจะรั่ว   อย่ามัวแต่ให้เหตุผลว่าการสร้างหนี้เป็นการสร้างรายได้.....

สร้างรายได้ให้กับใคร???......  

เกิดวิกฤตเศรษฐกิจทีไร  เห็นล้มบนฟูกใส่ชูชีพตีกรรเชียงหนีทุกที   ปล่อยให้ประชาชีกับรัฐนาวารับเคราะห์รับกรรมแทน    สงสารก็แต่ประชาชนกินหญ้า  เอ้ย!!! รากหญ้า   ที่ก้มหน้าก้มตา  ยกย่องบูชา   พ่อเทวดานักสร้างความหวังลมๆแล้ง   

อภิชา  นักวิชามาร
SHARE

Milan Tomic

Hi. I’m Designer of Blog Magic. I’m CEO/Founder of ThemeXpose. I’m Creative Art Director, Web Designer, UI/UX Designer, Interaction Designer, Industrial Designer, Web Developer, Business Enthusiast, StartUp Enthusiast, Speaker, Writer and Photographer. Inspired to make things looks better.

  • Image
  • Image
  • Image
  • Image
  • Image
    Blogger Comment
    Facebook Comment

0 ความคิดเห็น: