บิ๊กจิ๋ววววว


     "โดนจวก"จนเละไปหมดกับแนวคิดของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ  ประธานพรรคเพื่อไทย ที่เสนอแนวคิดให้จัดตั้ง "นครปัตตานี" ที่อ้างว่า เพื่อช่วยแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
 
            แต่ผู้คนกลับมองว่า "บิ๊กจิ๋ว" มี "วาระซ่อนเร้น"
 
           เพราะแนวคิดนี้เกิดไป "สอดคล้อง" กับกลุ่มที่เคยต้องการ "แบ่งแยกดินแดน" และกลุ่มที่เคลื่อนไหวผลักดันให้จัดตั้ง"รัฐอิสระ" โดยกลุ่มคนเหล่านี้ เคยเสนอถึงขั้นให้ 3 จังหวัดชายแดน กลับไปใช้ระบบการปกครองโดย "สุลต่าน"
 
           อีกทั้งแนวคิดของ "บิ๊กจิ๋ว" ที่จะให้ 3 จังหวัด"เลี้ยงตัวเอง" มี "กองกำลัง" เป็นของตัวเอง และมีการเลือกตั้ง"ผู้ปกครอง"ของตัวเองนั้น เป็นการ"เปิดช่อง"ให้มี "สุลต่าน"ที่มาจากการเลือกตั้ง "กลายร่าง " กลับมาปกครองคนพื้นที่... นั่นเอง
 
          สำหรับพล.อ.ชวลิต นั้น หาก "พลิกปูม"กันแล้ว ต้องบอกว่า ได้สร้างหลายเรื่องไว้ให้กับ "บ้านเมือง"
 
          แต่เป็นไปในด้าน "ลบ" มากกว่า " บวก"
 
          ย้อนไปเมื่อปี 2525 คนไทยเคยได้ยินคำว่า “สภาเปรซิเดียม” ที่มีเป้าหมายคล้ายคลึงกับความหมายของคำว่า “ปฏิญญาฟินแลนด์” ที่มีการ "ร่ำลือ"กันว่า ต้องการให้ "สถาบันเบื้องสูง "มีบทบาทเสมอเป็นเพียง“สัญลักษณ์”
 
         และผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการชูและเผยแพร่คำว่า "สภาเปรซิเดียม" ก็คือ "บิ๊กจิ๋ว"
 
         และเรื่อง "สภาเปรซิเดียม" ก็มีส่วนในการนำไปสู่ "การนองเลือดในเหตุการณ์พฤษภา 35 " 
 
         นั่นคือ..เมื่อ "คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ "หรือที่เรียกว่า รสช. ภายใต้การนำของ พล.อ. สุจินดา คราประยูร ได้ทำการสืบทอดอำนาจต่อ   พล.อ.ชวลิต  ได้เดิน "เกมส์ใต้ดิน"เพื่อโค่นล้ม พล.อ.สุจินดา ที่ขณะนั้นก้าวขึ้นเป็น "นายกรัฐมนตรี"   
 
          ทำให้ พล.อ.สุจินดา ซึ่งขณะนั้นอยู่ใน "ภาวะคับขัน" ได้ออกมาเปิดโปงว่า "บิ๊กจิ๊ว" เคยชวนตนเองล้มล้าง "ระบอบเดิม"เพื่อสร้าง"ระบอบสภาเปรซิเดียม" มาแล้ว
          และต่อมาความขัดแย้งได้บานปลาย นำไปสู่เหตุการณ์นองเลือด" พฤษภา 35"
 แต่เหตุการณ์ที่เป็น "ฝันร้าย"ของคนไทยทุกคนและของ"ภูมิภาคเอเชีย" ก็คือ "วิกฤติต้มยำกุ้ง" เมื่อปี 40
 
          เพราะทันทีที่รัฐบาลซึ่งมี พล.อ.ชวลิต เป็นนายกรัฐมนตรี  ประกาศ "ลอยตัวค่าเงินบาท" ก็นำประเทศเข้าสู่วิกฤตเศรษฐกิจครั้งสำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย และกลายเป็นวิกฤตเอเชีย ซึ่งรู้จักกันดีในนาม "วิกฤติต้มยำกุ้ง"
 
         และวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น ทำให้ไทยต้องเข้ารับความช่วยเหลือทางการเงินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)มากถึง 14,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อนำเงินจำนวนนี้มาแก้ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ
 
         และนั่นทำให้หลายคนถึงกับบอกว่า ไทยสูญเสียอธิปไตยทางเศรษฐกิจไปแล้ว
 ส่วนเรื่องที่เกี่ยวกับ "ปัญหาในจังหวัดชายแดนภาคใต้"  พล.อ.ชวลิต   ก็มีส่วนร่วมในการก่อความผิดพลาด และสร้างความรุนแรงและความเสียหายขึ้น
 
         เพราะทั้งเหตุการณ์ที่ "มัสยิดกรือเซะ"และ"สภอ.ตากใบ"  เป็นฝีมือของคนใกล้ชิด พล.อ.ชวลิต ล้วนๆ ในการสร้างความรุนแรงและบาดแผลให้จังหวัดชายแดนภาคใต้ เนื่องจากทั้ง 2 เหตุการณ์  ชาวไทยมุสลิม ต้องเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก จนยากที่จะเยียวยาให้เหมือนเดิมและก่อปัญหามาจนถึงทุกวันนี้
 
         ส่วนเหตุการณ์ล่าสุดก็คือ  "เหตุการณ์ 7ตุลาคม 51" ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่กลุ่มพันธมิตรฯปิดล้อมอาคารรัฐสภา เพื่อกดดันไม่ให้ "รัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์"แถลงนโยบายต่อรัฐสภาได้
 
          ซึ่งเหตุการณ์เช้าตรู่ของวันนั้น ตำรวจได้ระดมยิงแก๊สน้ำตาร่วมกว่าร้อยนัดเข้าใส่ผู้ชุมนุม เพื่อเป็นการเปิดเส้นทางให้คณะรัฐมนตรีและ ส.ส.เข้าไปประชุมสภาเพื่อที่รัฐบาลจะได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาได้
 
         ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก มีทั้ง แขนขาด-ขาขาด
 
         พอตกตอนเย็น ตำรวจก็ได้ใช้แก๊สน้ำตา ยิงต่อเนื่องไปจนถึงค่ำที่หน้ากองบัญชาการตำรวจนครบาลและลานพระบรมรูปทรงม้า ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจนถึงขาขาดเพิ่มขึ้นอีกและมีผู้หญิงเสียชีวิตด้วย
 
          หลังจากนั้นไม่นาน พล.อ.ชวลิต ซึ่งเป็นรองนายกรัฐมนตรีที่ดูแลความมั่นคง ก็ต้องลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
 
          แต่ก็ไม่รอดอยู่ดี เพราะถูก ปปช. ชี้มูลความผิดว่าปฏิบัติหน้าที่มิชอบ
 
          และขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการตั้งคณะทำงานร่วมระหว่าง ปปช.กับอัยการ เพื่อพิจารณาส่งฟ้องศาลต่อไป
 
        และเมื่อถึงคราวนี้ ที่ "บิ๊กจิ๋ว" เตรียมไปพบกับผู้นำมาเลเซีย และจะนำ"ไอเดีย"ตั้ง"นครปัตตานี" ไปเสนอ ก็ช่างสอดคล้องกับทางมาเลเซีย ที่เคยเสนอให้มี "การปกครองตนเอง" ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เสียด้วย ทำให้คนสงสัยว่า รับงานอะไรมาหรือเปล่า
 
          คำถามอยู่ที่ว่า ในชีวิต"บิ๊กจิ๋ว" เคยทำความดีให้กับบ้านเมืองสักกี่ครั้งกัน ถึงมาอวดอ้างว่าแนวคิด"นครปัตตานี" จะแก้ปัญหาใต้ได้ 
SHARE

Milan Tomic

Hi. I’m Designer of Blog Magic. I’m CEO/Founder of ThemeXpose. I’m Creative Art Director, Web Designer, UI/UX Designer, Interaction Designer, Industrial Designer, Web Developer, Business Enthusiast, StartUp Enthusiast, Speaker, Writer and Photographer. Inspired to make things looks better.

  • Image
  • Image
  • Image
  • Image
  • Image
    Blogger Comment
    Facebook Comment

1 ความคิดเห็น:

Lavanya Thai Clothing กล่าวว่า...

ฝากร้านชุดไทยแต่งงาน ชุดไทยประยุกต์ ร้านเช่าชุดไทยด้วยครับ
www.facebook.com/lavanyathaiclothing